สรุป

              ปัจจุบันสมาชิกหลายส่วนในสังคมสมัยใหม่ได้เริ่มตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนรูปของระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองได้ ชัดเจนกว่าในอดีต นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อการทำกิจกรรมและ ต่อความสัมพันธ์ของ ภาค ธุรกิจทั้งใน ระดับองค์การ กลุ่ม และบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การดำเนิน งานขององค์การสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง ตัวอย่างเช่น การเงิน และการธนาคารที่บุคคลและสถาบันการเงินสามารถกระทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างกัน แม้จะอยู่ห่างกันทางระยะทางการขนส่งวัสดุภัณฑ์ที่ สามารถ ตรวจสอบพิกัดของสิ่งของ สายการบินที่สามารถสำรองที่นั่ง ตรวจสอบความพร้อมด้านการบิน รวบรวมข้อมูลของผู้โดยสาร หรือธุรกิจขาย สินค้าทาง โทรทัศน์ ซึ่งลูกค้าสมารถสั่งซื้อผ่านเครือใยแก้ว เป็นต้น ซึ่งเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพและประเมินผลขององค์การ นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศ กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จขององค์การ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง 
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจเป็นระบบสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานของธุรกิจอย่างเป็นระบบ โดยถูกออกแบบพัฒนา ให้ปฏิบัติ งานตามหน้าที่ทางธุรกิจ ตลอดจนช่วยส่งเสริมให้ทั้งองค์การสามารถประสานงานและใช้ข้อมูล ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพทั้ง ในระดับปฏิบัติ การและระดับบริหาร โดยเราสามารถจำแนกระบบสารสนเทศทางธุรกิจออกเป็นระบบย่อย ต่อไปนี้
- ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี- ระบบสารสนเทศด้านการเงิน- ระบบสารสนเทศด้านการตลาด- ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและการดำเนินงาน และ- ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคลปัจจุบันผู้จัดการด้านต่าง ๆ ของธุรกิจ เช่น การเงิน การตลาด การผลิต หรือทรัพยากรบุคคลต่างต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจาก เทคโนโลยีสารสนเทศ ถูกนำมาประยุกต์ในการดำเนินงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้บริหารที่ขาดทักษะด้าน สารสนเทศจะเสีย โอกาสในการ พัฒนาตนเองและ หน่วยงาน ดังนั้นบุคคลที่ต้องการความสำเร็จในอนาคตต้องติดตามและคาดการณ์ แนวโน้มของความสัมพันธ์ ระหว่างการดำเนิน ธุรกิจและ เทคโนโลยี สารสนเทศให้ทัน
                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น